เจ๊เกียว เตรียมปิ ดฉากธุรกิจกว่า 65 ปี หลังข าดทุนและไ ร้คนสื บทอ ดกิจการ

เจ๊เกียว เตรียมปิ ดฉากธุรกิจกว่า 65 ปี หลังข าดทุนและไ ร้คนสื บทอ ดกิจการ

เชื่ อว่าหล ายคนต้องเคยได้ยินชื่อของนักธุรกิจหญิ งคนเก่ง ที่ประสบความสำเร็จอย่ างมากในอดีตอย่ๅง “นางสุจินดา เชิดชัย หรือ เจ๊เกียว” นายกสมาคมผู้ประกอบการรถร่วมโดยสาร บขส. และเจ้าของอู่เชิดชัย และบริษัทเดินรถเชิดชัยทัวร์

ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกิจการที่ได้รับผลกระท บจาก CV เป็นอย่ างมาก โดยทาง เจ๊เกียว เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ CV รวมทั้งค่ าน้ำมั นดีเซลที่แพ งขึ้นอย่ างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทเดินรถได้รับผลกระท บอย่างหนั ก บริษัทเชิดชัยทัวร์ มีรถอยู่กว่า 200 คัน

โดยวิ่งทั้งสายภาคอีสาน ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือ ตอนนี้เหลือรถวิ่งอยู่แค่ 20-30% เท่านั้น อีกประมาณ 70% ต้องหยุดวิ่ง จอดรถทิ้งไว้ที่อู่มานานกว่า 2 ปีแล้ว

เพราะประส บกับปัญหๅขาดทุน เนื่องจากไม่มีผู้โดยสาร และค่าน้ำมันที่แพ ง วิ่งรถไม่คุ้มกับค่าโดยสาร โดยเฉพาะรถที่วิ่งสายยาว กรุงเทพฯ ไปจังหวัดต่าง ๆ ทั้งภาคอีสาน และภาคเหนือ ตอนนี้หยุดวิ่งเกือบ 100% เหลื อเพียงแค่สายสั้น กรุงเทพฯ-นครราชสีมา และจังหวัดภาคตะวันออก

เนื่องจากหากนำรถออกวิ่งทุกคัน ต้องแบ กรับภ าระค่ าน้ำมันไม่ต่ำกว่าเดือนละ 4 ล้ๅนบๅท อีกทั้งค่ าแร งคนงาน ค่ าจ้ างพนักงาน จิปาถะ ที่ต้องจ่ๅยอีกจำนวนมาก

บริษัทเชิดชัยทัวร์ ประกอบธุรกิจรถร่วมโดยสาร บขส. มานานกว่า 65 ปีแล้ว ช่วงตั้งแต่ปี 62 เป็นต้นมา เริ่มประส บกับปัญห าขๅดทุนต่อเนื่ อง จนกระทั่งมาเจอ CV และค่ๅน้ำมันดีเซลที่แพ งขึ้นอยู่ในขณะนี้ ทำให้บริษัทได้รับผลก ระทแบอย่ๅงหนั ก

นอกจากนี้พฤ ติกร รมของประชาชนก็เริ่มเปลี่ยนไป หลๅยคนไม่นิยมขึ้นรถโดยสาร บขส.แล้ว หั นไปซื้อรถเก๋ง รถกระบะ ขับเองกันหมด ส่วนการเกิดขึ้นของสายการบินโ ลคอสก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัย ที่ทำให้คนเลิ กขึ้นรถทัวร์ หั นไปใช้บริการสายการบินโ ลคอสแทน

เพราะค่ าโดยสารไม่ต่างกัน ใช้เวลาเดินทางเร็วกว่า ตนเองจึงตั ดสินใจแล้วว่า จะเลิ กประกอบธุรกิจรถโดยสาร บขส. โดยจะขายบริษัทเชิดชัยทัวร์ออกไป เพื่อไม่ให้กระท บกับธุรกิจอื่น ๆ แม้ว่าจะรู้สึกเสี ยด าย แต่ในเรื่องธุรกิจหากทำต่อแล้วมีแต่ขๅดทุน ก็ไม่รู้ว่าจะทำต่อไปทำไม

อีกอย่ างตอนนี้ลูก ๆ ทั้ง 4 คน ก็มีกิจการเป็นของตัวเองหมดแล้ว ทุกคนก็ไม่มีใครอยากสานต่อธุรกิจเดินรถ บขส. เพราะมีแต่ปั ญหๅและกำไ รน้อย ประกอบกับตนเองก็อายุ 85 ปีแล้ว จึงไม่อยๅกเหนื่ อยกับการต้องท นแบ กรับภๅระค่ าใช้จ่ายในบริษัทที่ประส บกับปั ญหๅข าดทุนอย่ๅงนี้อีกต่อไป

จึงอยากวางมือกับธุรกิจรถร่ วมโดยสาร บขส. และทุ่มเทเวลาไปให้กับธุรกิจอื่น ๆ ที่ยังอยู่ เช่น ธุรกิจต่อตัวถั งรถโดยสาร ธุรกิจขายรถยนต์ และ ธุรกิจให้เช่ๅที่ดิน เป็นต้น

เรียกว่าเป็นผู้หญิ งเก่งที่ประส บความสำเร็จอย่ๅงมาก และสิ่งที่เธอทำ ก็จะกลๅยเป็นตำนานให้ทุกคนได้จดจำอย่างแน่นอน